จากการที่นั่งคุยกับผู้ปกครอง นักเรียน และครูที่สอนมาระยะหนึ่งเนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น การเรียนดนตรีจึงมีการนำเสนอในรูปของคลิป ยูทูป และอื่นๆ ทำให้เด็กในปัจจุบัน สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง แต่ทราบหรือไม่การเรียนจากสิ่งเหล่านี้มีทั้งข้อดี และข้อเสีย เด็กสามารถเปิดคอมพิวเตอร์ เรียนและฝึกเองได้ มันง่ายจนทำให้ทุกอย่างเพียงแค่เปิดคอมพิวเตอร์ก็มีทุกสิ่งที่ต้องการ นั่นทำให้เด็กสมัยนี้ความอดทนจะน้อยลงในการพยายามทำสิ่งใดให้สำเร็จ และเข้าใจบางสิ่งอย่างถ่องแท้ เช่น เมื่อสนใจเพลงไหนก็จะดู และทำตามแบบอย่างในสื่อต่างๆ เมื่อทำไม่ได้ก็เปลี่ยนเพลง หากแต่การเรียนการสอนครูจะเป็นผู้วิเคราะห์ว่าใครมีความสามารถถึงขั้นไหน เมื่อทำไม่ได้สามารถโต้ตอบกับครู ถามถึงวิธีประยุกข์ใช้ หรือวิธีเล่นในแบบอื่น ซึ่งคลิปหรือยูทูปไม่มี การเรียนดนตรีอันดับหนึ่งที่ควรมีร่วมกันคือ เด็กสนใจเองเป็นอันดับแรก นั่นทำให้สถานที่เรียนต่างๆ มีชั่วโมงสำหรับทดลองก่อน ให้เด็กได้สัมผัสกับเครื่องดนตรีชิ้นนั้นๆ เพื่อจะได้สังเกตว่าเด็กสนใจมากน้อยแค่ไหน พร้อมหรือไม่ในการเรียน และตัวผู้ปกครองที่เมื่อเรียนสักระยะหนึ่งแล้ว บทเรียนเริ่มยาก เด็กจะเริ่มอิดออดอยากอยู่เล่นที่บ้าน เล่นกับพี่ เล่นเกมส์ และอื่นๆ ที่จะมาอ้าง นั่นคือสิ่งสำคัญว่าทำไม บางสถานที่เรียนถึงให้ลงคอร์สแรก 3 เดือน หรือลงทีละ 3 เดือน หรือมากกว่า เพราะเป็นการบังคับผู้ปกครองในตัวด้วยให้เสียดายค่าเรียนที่ชำระมาแล้ว ส่วนเรื่องครูผู้สอนทางสถานที่เรียนจะคัดเลือกผู้สอนที่มีความสามารถ ทั้งศาสตร์การสอน และการเข้ากับเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องหลักของสถานที่เรียนแต่ละที่อยู่แล้ว
สถาบันดนตรีปณิธี Popular School